BegerCool All Plus Semi-gloss

In stock

เบเยอร์คูล ซูเปอร์เซรามิกชิลด์ สีบ้านเย็น ประหยัดค่าไฟ เช็ดล้างได้
ที่สุดของสีทีช่วยสะท้อนความร้อน 94.2% ช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้กว่า 25% ฟิล์มสีสามารถเช็ดล้างได้ และปกป้องพื้นผิวได้ดีเยี่ยมด้วย Titanium dioxide จากสหรัฐอเมริกา ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน

Compare

คุณสมบัติ

สีเบเยอร์ ซุปเปอร์ ไฮ-ชิลด์ ชนิดด้าน สำหรับทาภายใน สามารถใช้กับพื้นผิวคอนกรีต ซีเมนต์ พื้นผิวปูนฉาบ อิฐบล็อก กระเบื้องแผ่นเรียบ หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์

คุณสมบัติสำคัญ

  • สะท้อนความร้อนได้ > 94.2%
  • เป็นฉนวนกันร้อนจึงช่วยคุณประหยัดไฟสูงสุดถึง 25%
  • ป้องกันรังสี UV ให้บ้านสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ
  • ปกปิดพื้นผิวได้ดีเยี่ยม
  • ป้องกันยับยั้งเชื้อราและตะไคร่น้ำ
  • ไม่ผสมสารปรอทและสารตะกั่ว
  • นวัตกรรม
    นวัตกรรมไมโครสเฟียร์เซรามิก ที่องค์การนาซ่านำเป็นแผงป้องกันความร้อนให้กับกระสวยอวกาศ มีลักษณะ เกลี้ยง กลวง กลม ความเกลี้ยงช่วยในการสะท้อนความร้อน ความกลวงเปรียบเสมือนสารกันร้อน ความกลมทำให้ทุกอณูอัดแน่น ปกป้องความร้อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

วิธีการใช้งาน

ขั้นที่ 1 การเตรียมพื้นผิว
ขั้นที่ 1 : ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและคราบสกปรก ทิ้งให้แห้งสนิทอย่างน้อย 1-2 วัน
ขั้นที่ 2 : กรณีที่พื้นผิวผนังปูนเก่ามีรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ให้อุดโป๊วปิดรอยแตกร้าวลายงาด้วย Beger Acrylic Filler #200
ขั้นที่ 3 :
3.1 พื้นผิวปูนเก่า : ทาสีรองพื้นอเนกประสงค์ Beger Multi Purpose Primer B-1900 สูตรประสิทธิภาพสูง เพื่อเสริมการยึดเกาะและเพิ่มการปกปิดพื้นผิว
3.2 พื้นผิวปูนใหม่ : ทาสีรองพื้นเบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ เบอร์ 9900 เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกันความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV
ขั้นที่ 4 : ทาทับด้วยสี Beger Cool UV Shield สีฉนวนกันร้อนสะท้อนรังสี UV นวัตกรรมขั้นสูงสุด ปกป้องได้ทั้งรังสี UV-A, UV-B, และ UV-C ซึ่งเป็นสาเหตุให้ฟิล์มสีเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาฝุ่นชอล์ก

วิธีการใช้ :

ระบบการทาสี

ขั้นที่ 1 การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวปูนใหม่ : ทิ้งให้พื้นผิวปูนแห้งสนิทอย่างน้อย 1 เดือน และมีความชื้นน้อยกว่า 14%
พื้นผิวปูนเก่า : ขัดล้างสีเดิมที่เสื่อมสภาพออก ส่วนบริเวณที่มีเชื้อรา หรือตะไคร่น้ำต้องขัดล้างด้วย เบเยอร์ โมวด์ฟรี เอ็ม 001

ข้อควรระวัง : – ก่อนการทาสีทุกครั้ง ต้องล้างทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นละออง เศษซีเมนต์ หรืออาจใช้กระดาษทรายขัดฝุ่นออกให้หมดก่อน รวมทั้งคราบไขมันและสิ่งสกปรกต่างๆ
– ซ่อมแซมตกแต่งรอยแตกร้าวบนพื้นผิวด้วยสีโป๊ว เบเยอร์ อะคริลิกฟิลเลอร์ เบอร์ 200

ขั้นที่ 2 การทาสีรองพื้น เพื่อเสริมให้สีทับหน้ายึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีขึ้นและป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างพื้นผิวกับสีทับหน้า
พื้นผิวปูนใหม่ : ทาสีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง (กันความร้อน) เบเยอร์ คูล ออลซีซั่นส์ เบอร์ 6000 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนทาสีทับหน้า หรือเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนสูงสุดเลือกทาสีรองพื้นปูนใหม่กันด่างอีลาสโตเมอริค (กันความร้อนสูง) เบเยอร์ คูล เฟล็กซ์ เบอร์ 9000 จำนวน 1-2 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนทาสีทับหน้า
พื้นผิวปูนเก่า : ทาสีรองพื้นปูนเก่าอเนกประสงค์ เบเยอร์ มัลติเพอเพิส ไพรเมอร์ บี-1900 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการกันร้อนสูงสุด แนะนำทาทับด้วยสีรองพื้นปูนใหม่กันด่างอีลาสโตเมอริค (กันความร้อนสูง) เบเยอร์ คูล เฟล็กซ์ เบอร์ 9000 จำนวน 1-2 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนทาสีทับหน้า

* กรณีพื้นผิวปูนมีความชื้นสูงกว่า 14 % แต่ไม่เกิน 35 % แนะนำให้ใช้น้ำยารองพื้นปูนกันความชื้น เบเยอร์วอเตอร์บล๊อก เบอร์ ดับเบิ้ลยู-010 ทาในชั้นแรก แล้วปล่อยทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง ตามด้วยสีรองพื้นปูนเอนกประสงค์ เบเยอร์อัลตร้าไฮด์ ไพร์เมอร์ เบอร์ บี-2100 แล้วปล่อยทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง แล้วจึงทาสีทับหน้าอะคริลิกแท้ 100%

ขั้นที่ 3 การทาสีทับหน้า
ทาสีน้ำอะคริลิกแท้ 100% (กึ่งเงา) เบเยอร์ คูล ซูเปอร์เซรามิกชิลด์ จำนวน 2 เที่ยว โดยทิ้งระยะให้สีที่ทาชั้นแรกแห้งสนิทก่อน 2-3 ชั่วโมงจึงทาทับเที่ยวถัดไป

ข้อมูลเพิ่มเติม

สีทับหน้า

สูตรน้ำ

เกรด

Premium

พื้นที่การทา

30 – 40 ตารางเมตร

Main Menu